ขนมไทย เป็นของหวานที่แสดงถึงเอกลักษณ์วัฒนธรรมประจำชาติของไทยได้เป็นอย่างดี และเป็นสิ่งที่ส่งต่อสูตรกันมาจากรุ่นสู่รุ่นตั้งแต่สมัยโบราณ ส่งต่อความอร่อยมาจนถึงปัจจุบัน ขนมไทยส่วนใหญ่จึงมีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน และน่าสนใจ เหมาะแก่การเรียนรู้ ทำความรู้จักขนมไทยแต่ละชนิด ขนมตาลขนมไทยยอดนิยมอีกหนึ่งชนิดพร้อมสูตรวิธีการทำขนมไทยง่าย ๆ
ที่ใช้วัตถุดิบจาก ลูกตาล ที่ทั้งอร่อย และมีประโยชน์ หากคุณเป็นมือใหม่ที่กำลังอยากลองทำขนมด้วยตนเอง แนะนำให้เริ่มทำจาก ขนมไทยง่าย ๆ ก่อน แล้วค่อยเริ่มไปทำขนมไทยอื่น ๆ ที่ต้องใช้ความประณีต ละเอียดในการทำ ซึ่ง ขนมตาล ก็ถือเป็นขนมที่ตอบโจทย์ให้กับมือใหม่ เป็น ขนมไทยพื้นบ้าน ที่สามารถทำได้ง่าย ๆ ใช้วัตถุดิบ และอุปกรณ์ในการทำน้อย ได้รับความนิยมทำกันทั่วทุกภาคของประเทศไทย โดยเฉพาะจังหวัดเพชรบุรีที่มีการปลูกต้นตาลมากที่สุดในประเทศไทย
ขนมตาลมีลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง แตกต่างจาก ขนมไทย ชิ้นอื่น ๆ นั้นก็คือ เป็นขนมชิ้นเล็กสีเหลืองเข้ม เนื้อนุ่ม ฟู ทำมาจากเนื้อตาลสุก ผสมกับแป้งข้าวเจ้า และกะทิ โรยหน้าด้วยเนื้อมะพร้าวทึนทึกขูดฝอย รสชาติหวาน กลิ่นของขนมตาล หอม เนื้อสัมผัสนุ่มลิ้น เข้ากันได้ดีกับเนื้อมะพร้าวหวานมัน แต่ในปัจจุบันหา ขนมตาล ที่รสชาติดีได้ยากมาก เพราะปริมาณการปลูกต้นตาลในประเทศไทยที่ลดลงเรื่อย ๆ จึงหาเนื้อตาลสดได้ยาก
วัตถุดิบในการเตรียมเนื้อตาลสุก ลูกตาลสุก 2 ลูก น้ำสะอาดสำหรับล้างเนื้อตาล เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ วัตถุดิบในการทำหน้ามะพร้าว แป้งข้าวเจ้า 300 กรัม เนื้อตาลยี 200 กรัม หัวกะทิ 600 กรัม ยีสต์ 2 ช้อนชา ผงฟู 1+1/2 ช้อนชา น้ำตาลทรายขาว 300 กรัม เกลือป่น 1/2 ช้อนชา เนื้อมะพร้าวทึนทึกขูดเส้น ปริมาณตามชอบ
ขั้นตอนวิธีเตรียมเนื้อตาลสด ขั้นตอนแรกนำลูกตาลสด 2 ลูกไปล้างน้ำให้สะอาด จากนั้นดึงขั้วตาลออกแล้วใช้มีดปลอกเปลือก และใช้มือดึงเปลือกสีดำออกให้หมด ดึงแกนแข็ง ๆ หรือใจตาลออก (ส่วนนี้หากแยกออกไม่หมดจะทำให้เนื้อตาลมีรสขม และเฝื่อน) และแยกส่วนของผลตาลใส่ในชามผสม ต่อมาเป็น วิธีล้างเนื้อตาล เติมน้ำใส่ลงไปให้ท่วม ตามด้วยเกลือ (ช่วยลดความขม และเฝื่อนของเนื้อตาล) จากนั้นใช้มือคั้น และยีให้เนื้อตาลออกมาได้มากที่สุด เสร็จแล้วนำไปกรองด้วยตะแกรงใส่ลงในภาชนะอีกหนึ่งใบ นำเนื้อตาลในภาชนะที่ผ่านการกรองแล้ว มาเทใส่ผ้าขาวบางทบ 2 ชั้น รองด้วยตะแกรง และรองด้วยชามผสม ทำการรวบผ้าเข้าหากันแล้วมัดไว้ ทิ้งไว้ 1 คืน เพื่อให้น้ำที่ปนอยู่ในเนื้อตาลไหลออกมาให้หมด เมื่อรอจนครบเวลา วิธีเก็บเนื้อตาลที่ยีแล้ว ให้นำไปใส่ในบรรจุภัณฑ์ที่มีฝาปิด เพื่อนำไปเป็นวัตถุดิบในการทำขนมต่อไป
ขั้นตอนวิธีทำขนมตาล ขั้นตอนแรกใส่หัวกะทิลงไปในหม้อ ตามด้วยน้ำตาลทราย และเกลือป่น เปิดเตาต้มด้วยไฟอ่อนให้ส่วนผสมละลายเข้ากัน เสร็จแล้วปิดเตานำไปพักไว้ให้เย็นสนิท ผสมแป้งข้าวเจ้ากับยีสต์ให้เข้ากัน และใส่เนื้อตาลทั้งหมดที่เตรียมไว้ลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากันจนได้ลักษณะคล้ายเม็ดทราย จากนั้นทยอยใส่น้ำกะทิที่เตรียมไว้ลงไปนวดทีละนิด จนแป้งจับตัวเป็นก้อน และนวดต่อเป็นเวลา 30 นาที จนเนื้อแป้งเนียนได้ที่ และทยอยใส่น้ำกะทิที่เหลือลงไปละลายแป้งอีกครั้งให้เหนียวข้น จนกว่าน้ำกะทิที่เตรียมไว้จะหมด ใช้แผ่นฟิล์มถนอมอาหารห่อชามผสมแล้วพักแป้งไว้ในบริเวณที่มีแดดจัด เป็นเวลา 3 ชั่วโมง
เมื่อพักแป้งไว้จนครบเวลาแล้วให้ร่อนผงฟูใส่ลงไป ใช้ไม้พายคนผสมให้เข้ากัน พักไว้แล้วไปนึ่งถ้วยตะไลด้วยน้ำเดือดจัดเป็นเวลา 10 นาที จากนั้นคนแป้งเล็กน้อยก่อนจะหยอดแป้งลงไปให้เต็มถ้วยตะไล นำเนื้อมะพร้าวขูดฝอยมาคลุกเคล้าให้เข้ากันกับเกลือแล้วโรยหน้าขนม และนึ่งด้วยไฟแรงจัดเป็นเวลา 25 นาที เสร็จแล้วยกออกจากเตาพักไว้ให้เย็น และนำไปรับประทานได้เลย