ขนมอินทนิล ลูกพี่ลูกน้องของขนมบัวลอยลูกครึ่งกับขนมเปียกปูนกะทิสดเป็นการผสมผสานรวมเอาสิ่งที่ดีของขนมกะทิเหล่านี้มารวมเอาไว้ด้วยกัน ขนมอินทนิลเป็นขนมไทยชื่อสวยที่มีชื่อเล่นเรียกง่ายๆ ว่าขนมหยกสด มีสีเขียวคล้ายกับอัญมณีอย่างหยกปัจจุบันนี้มีกระแสหันมาอนุรักษ์ขนมไทยกันมากยิ่งขึ้น ทำให้ขนมโบราณในอดีตที่ห่างหายไปกลับมาให้เราสามารถหารับประทานได้อีกครั้ง
ที่มาเกิดจากการที่ตัวแป้งมีส่วนผสมของน้ำใบเตยทำให้สีของมันออกมามีสีเขียวคล้ายกับอัญมณีอย่างหยกนั่นเอง ขนมอินทนิลเป็นขนมที่ทำได้ง่ายมากไม่ว่าใครก็สามารถทำได้มันจึงเป็นขนมระดับเริ่มต้นที่เหมาะสำหรับคนที่ไม่เคยทำขนมมาก่อนเป็นขนมที่ทำได้ง่ายและมีวัตถุดิบเพียงไม่กี่อย่างประกอบไปด้วย หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง หากใช้กะทิคั้นสดให้เลือกใช้เฉพาะหัวกะทิเท่านั้นแต่หากใช้กะทิกระป๋องหรือกะทิกล่องสำเร็จรูปสามารถใช้ได้เลยโดยที่ไม่ต้องแยกหางกะทิ น้ำตาลทราย หากต้องการให้มีความหวานน้อยลงก็สามารถปรับลดได้ตามความต้องการ เกลือป่น เทียนอบควันเทียน น้ำใบเตยคั้นสด วิธีการคือนำเอาใบเตยสดมาตัดให้เป็นท่อนเล็ก ๆ จากนั้นนำเอาลงไปต้มในน้ำเดือดจัด พักให้เย็นแล้วใช้ผ้าขาวบางกรอง แป้งมันสำปะหลัง ขั้นตอนจะประกอบไปด้วย นำน้ำกะทิใส่ชามหรืออ่างที่มีระดับความสูงมากกว่าปกติ จากนั้นให้นำเอาเทียนอบควันเทียนใส่ในถ้วยขนาดเล็ก ทำการจุดให้มีควัน นำเอาลงไปลอยในน้ำกะทิแล้วปิดฝาอ่างหรือชามไว้ ทิ้งไว้เป็นเวลา 30 นาที หากต้องการให้ขนมมีความหอมแบบไทยเดิมสามารถนำเอากระดังงาลนไฟใส่ลงไปด้วยได้ ตั้งหม้อด้วยไฟกลาง นำเอากะทิที่ได้ใส่ลงไปพร้อมกับเกลือป่นและน้ำตาลทราย คนให้เข้ากันจนน้ำตาลและเกลือละลาย คนจนเดือดหลังจากนั้นให้ยกลงมาพักไว้ นำแป้งมาผสมกับน้ำใบเตยในชามผสม คนให้เข้ากันจนแป้งละลายไปกับน้ำใบเตยเป็นเนื้อเดียวกัน นำขึ้นตั้งไฟโดยใช้ไฟอ่อน เมื่อหม้อเริ่มร้อนให้นำเอาแป้งใส่ลงไปในหม้อแล้วใช้ไม้พายกวนส่วนผสมตลอดเวลาห้ามหยุดเด็ดขาด เพราะถ้าหยุดขนมจะไหม้ก้นหม้อทันที ใช้เวลากวนประมาณ 10 – 20 นาที ตัวแป้งก็จะเริ่มสุก สังเกตได้จากการที่แป้งมีความเหนียวจนยกไม้พายขึ้นมาแล้วมีแป้งติดขึ้นมาด้วย สีของแป้งก็จะใสมากยิ่งขึ้นจนเกือบจะโปร่งแสง นำเอาหม้อที่มีแป้งสุกแล้วใส่ลงในอ่างที่มีน้ำเย็นและน้ำแข็งเพื่อหยุดความร้อน เพราะหากโดนความร้อนไปเรื่อย ๆ ตัวขนมก็จะแข็งจนไม่สามารถปั้นได้ ขั้นตอนต่อมาต้องอาศัยความอดทนต่อความร้อนเล็กน้อย เพราะเราต้องใช้มือจุ่มน้ำสะอาดจากนั้นให้ไปหยิบแป้งปั้นเป็นก้อนขนาดกำลังพอดีแล้วนำเอาแป้งที่ได้ใส่ลงไปในน้ำกะทิที่เราเตรียมไว้ในขั้นตอนแรก อย่าลืมเอามือชุบน้ำอยู่เป็นประจำเพื่อไม่ให้แป้งติดมือ ตักขนมและน้ำกะทิใส่ถ้วย เติมน้ำแข็งลงไป หากต้องการเพิ่มกลิ่นหอมสามารถนำเอาดอกมะลิสดล้างสะอาดลงไปลอยในถ้วยได้ เพียงเท่านี้เราก็ได้ขนมหวานเย็นชื่นใจมารับประทานอย่างเอร็ดอร่อย