มาเดอลีนเป็นเบเกอรี่ที่ใช้เนื้อเค้กสปันจ์ มาเดอลีน รสชาติ หวานนุ่มชุ่มฉ่ำเนย กลิ่นหอมของผิวเลมอนและเนยผสมผสานกันอย่างลงตัว ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของขนม แช่ไว้ในตู้เย็น 2–3 วัน เนื้อขนมจะอร่อยฉ่ำมากยิ่งขึ้น อีกหนึ่งเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของเมนูเบเกอรี่ เมนูนี้เลยก็คือรูปร่างเปลือกหอยสีเหลืองทองที่ถูกรังสรรค์มาอย่างสวยงาม นิยมนำมารับประทานคู่กับชากาแฟในยามบ่าย
โดยที่มาของรูปร่างเปลือกหอยก็มาจากการที่หญิงสาวผู้คิดค้นสูตรขนม เธอได้ใช้เปลือกหอยที่หาได้ง่ายในครัวมาใช้แทนพิมพ์ในการอบนั้นเอง แม้ว่าขนมมาเดอลีนและขนมไข่ของไทยจะมีรูปร่างหน้าตาที่คล้ายคลึงกันและใช้วัตถุดิบที่คล้ายกันอย่าง แป้ง น้ำตาล ผงฟู และไข่ไก่ และนิยมนำมารับประทานคู่กับชากาแฟในยามบ่าย แต่ความแตกต่างของ เบเกอรี่ขนมหวาน ทั้งสองชนิดนั้นคือ ขนมไข่จะเน้นวัตถุดิบหลักเป็นไข่สดๆในปริมาณมาก ส่วน มาเดอแลน จะเน้นการใส่ส่วนผสมหลักเป็นเนย จนนุ่มชุ่มฉ่ำและมีการใส่ผิวเลมอนเข้าไปเพิ่มกลิ่นด้วย มาเดอลีนเป็น ขนมทำง่าย แต่ต้องใช้เวลาในการทำเล็กน้อยเพื่อให้แป้งของขนมเชตตัว โดยพักไว้ให้แป้งดูดซึมส่วนผสมอื่นๆให้ได้มากที่สุด ส่งผลให้เนื้อขนมอร่อยนุ่มชุ่มฉ่ำ ในปัจจุบัน มาเดอลีน สูตร มีความหลากหลายมากจากความนิยมที่ได้รับในหลายๆประเทศ ในบางสูตรมีการเพิ่มอัลมอนด์ และลูกเกดเข้าไปเป็นส่วนผสม เพิ่มเติมกลิ่น และรสชาติให้อร่อยมากยิ่งขึ้น เช่น รสส้ม , ช็อคโกแลต , คาราเมล และอื่นๆ สำหรับสูตรทำขนมของเราในบทความนี้เป็นสูตรคลาสสิก ทุกคนสามารถรังสรรค์ปรับเปลี่ยนสูตร โดยเพิ่มวัตถุดิบอื่นๆใส่ได้ตามชอบ วัตถุดิบ ทำ ขนมมาเดอลีน ไข่ไก่เบอร์1 2 ฟอง น้ำตาลทราย 90 กรัม แป้งเค้ก 115 กรัม ผงฟู 11/2 ช้อนชา เนยรสเค็มละลาย 95 กรัม ผิวเลมอนขูด 1 ผล ขั้นตอนวิธีการทำ ขั้นตอนแรกในการทำMADELEINE เริ่มจากการใส่ไข่ และน้ำตาลลงไปในชามผสม ใช้ตะกร้อมือตีจนส่วนผสมละลายเข้ากันดี ต่อด้วยการร่อนของแห้งทั้งหมดใส่ลงไป คือ แป้งเค้ก และผงฟู จากนั้นคนให้เข้ากันอีกครั้งจนเป็นเนื้อครีม ใส่เนยสดรสเค็มละลายพออุ่นลงไปตีต่อให้เข้ากัน สุดท้ายใส่ผิวเลมอนขูดลงไปตีให้เข้ากัน พักแป้งไว้ในภาชนะมีฝาปิดไว้ในตู้เย็นอย่างน้อย 4 ชั่วโมง แต่ไม่ควรเกิน 12 ชั่วโมง เมื่อพักแป้งไว้จนครบเวลาแล้วให้นำออกมาคนให้คลายความเย็นลง นำใส่ถุงบีบ จากนั้นเตรียมพิมพ์รูปก้นหอย โดยใช้เนยนิ่มทาพิมพ์บางๆให้ทั่ว ร่อนผงแป้งลงไปให้ทั่วพิมพ์ และเคาะแป้งส่วนเกินออก เพื่อป้องกันไม่ให้ขนมติดพิมพ์ รองพิมพ์ด้วยถาดรองอบแล้วบีบครีมที่เตรียมไว้ลงไปไม่ต้องเต็ม เพราะระหว่างอบตัวขนมจะฟูขึ้นมา วอร์มเตาอบด้วยอุณหภูมิ 190 องศาไฟบนล่างเปิดพัดลม เป็นเวลาประมาณ 20 นาที ก่อนจะนำขนมเข้าเตาอบด้วยอุณหภูมิเท่าเดิม เป็นเวลา 12 – 15 นาที หรือจนกว่าตัวขนมจะสุกฟูได้ที่ เสร็จแล้วนำออกจากพิมพ์มาพักไว้ในตะแกรงให้คลายความร้อน เสร็จแล้วนำไปชุบช็อกโกแลต หรือนำไปทานกับชากาแฟได้เลย